ศูนย์รวมความรู้ประกันภัย
ความหมายการประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance)
ประเภทของการประกันวินาศภัย
ประกันภัยส่วนบุคคล
ประกันภัยทรัพย์สิน
ประกันภัยความ
รับผิดตามกฎหมาย
พิจารณาตาม "วัตถุที่เอาประกันภัย" สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ประกันอัคคีภัย
ประกันภัยรถยนต์
ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
ประกันภัยเบ็ดเตล็ด
พิจารณาตาม " ลักษณะของภัย" สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
ความคุ้มครอง สำหรับ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย
“ที่อยู่อาศัย” ในที่นี้หมายถึง บ้าน ทาวเฮาส์ บ้านแฝด ตึกแถว ห้องชุด อาคารชุด และคอนโดมิเนียม ดังนั้น กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย จะให้ความคุ้มครองการสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ ไม่ว่าทั้งหมดรหรือบางส่วน อันเกิดจากอัคคีภัย เช่นเดียวกับกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย แต่ได้ขยายความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ความคุ้มครอง ครอบคลุมถึง
ไฟไหม้
ฟ้าผ่า
(รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)
การระเบิด
การระเบิด (ทุกชนิด)
ยานพาหนะ หรือ ช้าง วัว ควาย
แต่บริษัทจะไม่รับผิดหากความเสียหายนั้นเกิดจากยานพาหนะ หรือ ช้าง ม้า วัว ควายของผู้เอาประกันภัย สมาชิกในครอบครัว ซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัย หรือ บุคคลใดที่กระทำในทางการที่จ้าง หรือถูกใช้วานโดยผู้เอาประกันภัย
อากาศยาน หรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน
แต่จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดจากอากาศยานที่ผู้เอาประกันภัยได้อนุญาตให้ลงในพื้นที่ซึ่งตนมีสิทธิให้ลงได้
ภัยอันเนื่องจากน้ำ
อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อย การรั่วไหล หรือ การล้นออกมาของน้ำ หรือไอน้ำจากท่อน้ำ น้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในสิ่งปลูกสร้างจากการชำรุงของหลังคาบ้าน หน้าต่าง ประตู วงกบ ประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ ทั้งนี้จะไม่รวมถึง ความเสียหายที่เกิดจากน้ำไหลบ่า น้ำท่วม หรือน้ำที่ซึมผ่านเข้ามาทางผนัง พื้นห้องใต้ดิน และ การล้างท่อระบายน้ำ การแตกหรือการรั่วไหลจากระบบท่อประปาใต้ดิน หรือท่อน้ำดัลเพลิงใต้ดิน ซึ่งเป็นท่อประธานอยู่นอกสิ่งปลูกสิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัย หรือการแตกหรือการรั่วไหลของระบบเครื่องพรมน้ำดับเพลิง (Sprinkler Leakage)
     ทรัพย์สินที่สามารถเอาประกันภัยได้ หมายรวมถึง สิ่งปลูกสร้าง(ไม่รวมฐานราก) และหรือทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในสถานที่เอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์
ความคุ้มครอง สำหรับ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย
ความคุ้มครองการสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ ไม่ว่าทั้งหมดรหรือบางส่วน อันเกิดจากอัคคีภัย อันได้แก่
ไฟไหม้ แต่ไม่รวมถึงความเสียหาย
• จากแรงระเบิด อันเป็นผลมาจากไฟไหม้ เว้นแต่แรงระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่าง หรือ ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย
• โดยตรงหรือโดยอ้อมจากแผ่นดินไหว
• ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย อันเกิดจาก
  - การบูดเน่าหรือการระอุตามธรรมชาติ หรือ การลุกไหม้ขึ้นเอง เฉพาะที่เกิดจากตัวทรัพย์สินนั้นเองเท่านั้น หรือ
  - การที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในระหว่างกรรมวิธีใดๆ ซึ่งใช้ความร้อน หรือ การทำให้แห้ง
ฟ้าผ่า
แรงระเบิดของแก๊สที่ใช้ทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น
ทรัพย์สินที่สามารถเอาประกันภัยได้ สามารถแบ่งได้เป็น
• สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร
• เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง สิ่งติดตรึงตรา เครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
• เครื่องจักรและอุปกรณ์
• สต๊อกสินค้า วัตถุดิบ สินค้าระหว่างการผลิต สินค้ากึ่งสำเร็จรูป และ สินค้าสำเร็จรูปรวมทั้งวัสดุหีบห่อ
• ทรัพย์สินอื่นๆ ได้แก่ ทรัพย์สินที่มิได้ระบุไว้ข้างต้น หรือ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เปียโน เป็นต้น
ความหมายการประกันอัคคีภัย
การประกันภัยที่คุ้มครองการสูญเสียหรือเสียหายซึ่งเกิดจากอัคคีภัยไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ รวมถึงความเสียหายสืบเนื่อง นั่นคือความเสียหายทางการเงินที่เป็นผลสืบเนื่องนอกเหนือจากความเสียหายทางวัตถุ อันเกิดจากภัยที่เอาประกันภัยไว้ อันได้แก่
• ทรัพย์สินเสียหายจากน้ำ / สารเคมีดับเพลง ทั้งนี้เพื่อการดับเพลิง
• ความเสียหายจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม
• การทำบายหรือระเบิดทรัพย์สินหรือบ้านข้างเคียงเพื่อปัองกันการลุกลามของไฟ
• ค่าใช้จ่ายต่างๆ อันมีเหตุผล ที่เกิดขึ้นเพื่อรักษาทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ไม่เกิดหรือลดความเสียหาย
• กำแพง / ชิ้นส่วนอาคารที่ถูกไฟไหม้หล่นลงมาทับทรัพย์สิน
ปัจจุบันกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย สามารถจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย
กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย
ความหมายการประกันรถยนต์
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ โดยจะให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัยของบุคคลภายนอก ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถ และความคุ้มครองความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ต่อตัวรถยนต์
การประกันภัยรถยนต์ จำแนกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
จำแนกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury : TPBI)
2. ความคุ้มครองความรับผิดทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage : TPPD)
3. ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถ (Own Damage : OD)
4. ความคุ้มครองความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ (Fire and Theft : F&T)
ความคุ้มครอง
สำหรับประกันภัยรถยนต์
"ภาคสมัครใจ "
"กำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ"
ความคุ้มครอง
สำหรับประกันภัยรถยนต์
"ภาคบังคับ"
ความหมายการประกันทางทะเลและขนส่ง
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวเรือและทรัพย์สินหรือสินค้าที่อยู่ในระหว่างการขนส่งทางทะเล และยังขยายความคุ้มครองไปถึงการขนส่งสินค้าทางบกและทางอากาศ ซึ่งต่อเนื่องกับการขนส่งทางทะเล
การประกันภัยทางทะเลและขนส่งในประเทศไทย แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1) ประกันภัยตัวเรือ
การประกันภัยตัวเรือจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวเรือ(Hull) เครื่องจักร(Machinery) และอุปกรณ์เดินเรือที่เกิดอุบัติเหตุ (ไม่รวมถึงเหตุการณ์ปกติธรรมดาของลมและคลื่นที่ก่อให้เกิดความเสียหาย) จากสาเหตุต่างๆ เช่น ภยันตรายแห่งท้องทะเล แม่น้ำ ทะเลสาบ ไฟไหม้ การระเบิด การลักขโมย ถูกปล้นสดมภ์ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฟ้าผ่า อุบัติเหตุในระหว่างการบรรทุกหรือขนถ่ายสินค้าหรือน้ำมันเชื้อเพลิง ความประมาทเลินเล่อ การทุจริต
2) ประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
การประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการขนส่งทางทะเล หรือการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ โดยมีสาเหตุของความเสียหายมาจากสาเหตุต่างๆ ผู้เอาประกันภัยที่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์ในสินค้าขณะที่สินค้าเกิดความเสียหาย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยตามที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อความคุ้มครองต่างๆ ไว้
3) ประกันภัยการขนส่งสินค้าในประเทศ
การประกันภัยการขนส่งสินค้าในประเทศให้ความคุ้มครองความเสียหายหรือความสูญหายที่เกิดขึ้นกับสินค้าที่ทำประกันภัยในระหว่างการขนส่งสินค้าภายในประเทศ โดยการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ รถไฟ เรือ หรือเครื่องบิน และสินค้าได้รับความเสียหายหรือสูญหายจากอุบัติเหตุต่างๆ ตัวอย่างเช่น ไฟไหม้ การระเบิด การคว่ำหรือการชนกับสิ่งอื่น สินค้าถูกขโมย รวมถึงความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าจากภัยธรรมชาติ
ความหมายการประกันเบ็ดเตล็ด
การประกันภัยประเภทอื่นๆ นอกเหนือจาก ประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง อาทิเช่น
ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล/กลุ่ม
การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการประกันอุบัติเหตุกลุ่มมีความคุ้มครอง 2 แบบคือ 1) อบ.1 และ 2) อบ.2 โดยที่ อบ.1 จะมี 4 ความคุ้มครองให้เลือกคือ 1) การสูญเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ/สายตา การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 2) การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง 3) การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน และ 4) การรักษาพยาบาล ส่วนแบบ อบ.2 จะให้ความคุ้มครองเพิ่มจากแบบ อบ.1 คือ การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียการรับฟังเสียง/การพูดออกเสียง และการทุพพลภาพถาวรบางส่วน สำหรับกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิต และ นักศึกษาจะมีเฉพาะแบบ อบ.1 เท่านั้น
ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บและการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางตามที่กำหนดไว้ ซึ่งถือเป็นความคุ้มครองมาตรฐาน นอกเหนือจากนั้นผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ดังนี้
• การสูญเสียและความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง ความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
• การยกเลิก การหยุดชะงักการเดินทาง หรือ การเดินทางล่าช้า ความล่าช้าของเที่ยวบิน
• การสูญเสียเงินส่วนตัว การสูญเสียเอกสารเดินทาง
• ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้าย และการส่งกลับประเทศเพื่อรักษาพยาบาล
• การส่งศพหรือกระดูกหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต
• ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
• ความเจ็บป่วยในระหว่างการเดินทางโดยความเจ็บป่วยนั้นมิใช่มาจากการประสบอุบัติเหตุ
ประกันภัยสุขภาพ
ประกันภัยสุขภาพ สามารถแบ่งผลประโยชน์ที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากการประกันสุขภาพเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ ผลประโยชน์ในการรักษาพยาบาลและ ผลประโยชน์ในการทดแทนการสูญเสียรายได้
ประกันภัยทรัพย์สิน
การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินให้ความคุ้มครองทรัพย์สินจากภัยต่างๆ ที่ค่อนข้างกว้างขวาง กล่าวคือคุ้มครองทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต่อความสูญเสียและความเสียหายโดยตรงทางกายภาพจากอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกทุกกรณี เว้นแต่ที่ระบุไว้ในข้อยกเว้นในกรมธรรม์
ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risk)
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินจากภัยทุกชนิดที่ไม่ได้ระบุในข้อยกเว้น หากทรัพย์สินหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์สินได้รับความเสียหายหรือสูญหายโดยอุบัติเหตุหรือโดยเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ ก็จะได้รับการชดใช้ความเสียหาย
ประกันภัยโจรกรรม
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากการลักทรัพย์ การชิงทรัพย์ หรือ การปล้นทรัพย์
ประกันภัยสำหรับเงิน
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อเงินที่เอาประกันภัยอันเนื่องมาจากการลักทรัพย์ การชิงทรัพย์ การปล้นทรัพย์ อัคคีภัย ภัยธรรมชาติ และการโกงหรือ ยักยอกโดยพนักงานรับส่งเงินหรือผู้รักษาเงินซึ่งค้นพบได้ภายใน 3 วันทำการ
ประกันภัยกระจก
การประกันภัยที่รับประกันการแตกไปของกระจก โดยการจ่ายเงินชดเชย หรือ เลือกหากระจกอื่นมาทดแทน หรือซ่อมแซมกระจกที่แตกไป รวมทั้งการจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมควร เพื่อนำสิ่งอื่นมาปิดไว้ระหว่างที่ยังไม่ได้นำกระจกมาใส่แทน
ประกันภัยสำหรับผู้เล่นกอล์ฟ
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดจากการเล่นกอล์ฟ
ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมาย
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความรับผิดของผู้เอาประกันภัยในกรณีต่างๆ ดังนี้
1. ความรับผิดตามกฎหมายของเจ้าของธุรกิจ เจ้าของโรงงาน บ้านเช่า โรงงาน โรงภาพยนต์ หากเกิดอุบัติเหตุแก่บุคคลภายนอกที่เข้ามาในสถานที่ดังกล่าว
2. ความรับผิดตามกฎหมายของผู้ประกอบธุรกิจที่มีต่อประชาชน ในฐานะที่เป็นผู้ผลิต หรือ ผู้จำหน่าย
3. ความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลอื่นที่ใช้ลิฟต์ โดยจะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกาย ของผู้ใช้ลิฟต์ รวมถึงค่าเสียหายที่เกิดแก่ตัวลิฟต์เอง แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบ ถ้าตัวตึกพังลงมาทำให้ลิฟต์ที่ใช้ได้รับความเสียหาย
4. ความรับผิดตามกฎหมายต่อผู้อื่น อันมิใช่ความประมาทเลินเล่อของตนเอง
5. ความรับผิดตามกฎหมายของนายจ้างต่อลูกจ้าง
6. ความรับผิดตามกฎหมายร่วมหลายประเภทอย่างกว้างขวางของผู้ประกอบธุรกิจต่อบุคคลอื่น
ประกันความรับผิดจากวิชาชีพ
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติงานผิดพลาดของบุคคลในวิชาชีพต่างๆ ต่อบุคคลอื่น
การประกันชีวิต (Life Insurance) คืออะไร
การประกันชีวิต เป็นวิธีการที่บุคคลกลุ่มหนึ่งร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องจากการตาย การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และการสูญเสียรายได้ในยามชรา โดยที่เมื่อบุคคลใดต้องประสบกับภัยเหล่านั้น ก็ได้รับเงินเฉลี่ยช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว โดยบริษัทประกันชีวิตจะทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการนำเงินก้อนดังกล่าวไปจ่าย ให้แก่ผู้ได้รับภัย
การประกันชีวิต แยกออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
ประเภทสามัญ
เป็นการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างสูง ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ในการพิจารณารับประกันชีวิตอาจจะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจสุขภาพ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท และมีการชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี, ราย 6 เดือน, ราย 3 เดือน หรือรายเดือน
ประเภทอุตสาหกรรม
เป็นการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยต่ำ โดยทั่วไปตั้งแต่ 10,000 – 30,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ต่ำ การชำระเบี้ยประกันภัยจะชำระเป็นรายเดือน และไม่มีการตรวจสุขภาพ ฉะนั้นจึงมีระยะเวลารอคอย คือ ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บตามธรรมชาติ บริษัทจะไม่จ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ แต่จะคืนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระมาแล้วทั้งหมด
ประเภทกลุ่ม
เป็นการประกันชีวิตที่กรมธรรม์หนึ่งจะมีผู้เอาประกันชีวิตร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ส่วนมากจะเป็นกลุ่มของพนักงานบริษัท ในการพิจารณารับประกันอาจจะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจก็ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท การประกันชีวิตกลุ่มนี้อัตราเบี้ยประกันชีวิตจะต่ำกว่าประเภทสามัญและประเภท อุตสาหกรรม
กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบ Universal Life ทางเลือกใหม่สำหรับประชาชน
กรมการประกัน ภัยได้ออกประกาศนายทะเบียนเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกและเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ และหลักเกณฑ์การให้ความเห็นชอบแบบและข้อความกรมธรรม์ประกันชีวิตและอัตรา เบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2547 ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้ให้ความเห็นชอบให้บริษัทประกันชีวิตรายหนึ่งขายกรมธรรม์ประกัน ชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับประชาชนและสร้างความ หลากหลายให้กับธุรกิจประกันภัยแล้ว โดยมีลักษณะรายละเอียด ดังนี้
การประกันชีวิตในลักษณะควบคุมการลงทุน (Investment-linked life insurance)
เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่แยกส่วนความคุ้มครองชีวิต และส่วนการลงทุนอย่างชัดเจน โดยจะมีการให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการลงทุนของบริษัทแต่ไม่ต่ำกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับรองไว้