InsurTech: Technological Innovations for the Insurance Industry

       InsurTech หรือเทคโนโลยีประกันภัย คือแนวทางใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ในยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีในธุรกิจประกันภัยส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ การให้บริการลูกค้า และการจัดการกระบวนการต่าง ๆ
ความหมายและความสำคัญของ InsurTech
InsurTech หมายถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนากระบวนการในธุรกิจประกันภัย โดยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและปรับราคาเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังทำให้กระบวนการดำเนินงานเป็นไปได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ลดภาระงานที่ยุ่งยากลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางาน
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่เร่งการเปลี่ยนแปลงในวงการประกันภัย ธุรกิจประกันเริ่มมุ่งสู่ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น การพบลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และการใช้แอปพลิเคชันเป็นที่นิยม ซึ่งทำให้การบริการต่างๆ เช่น InsurTech ในชีวิตประจำวันที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ เช่น แอปพลิเคชันซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านมือถือ การเคลมประกันออนไลน์อย่างแอปพลิเคชัน ClaimDi สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องไปยังสาขา การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น แต่ยังลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทอีกด้วย แต่ก่อนบริษัทประกันภัยต้องอาศัยการสำรวจข้อมูลจากการสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลทางสถิติ แต่ด้วยการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก IoT บริษัทสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เอาประกันได้ทันที ทำให้แบบจำลองความเสี่ยงมีความแม่นยำและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ การใช้ Machine Learning ยังช่วยให้สามารถปรับแต่งผลิตภัณฑ์ได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับพฤติกรรมจริง นอกจากนี้ในแวดวงสุขภาพก็ยังมี Pharmcare ซึ่งมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษาสำหรับคนที่มีความสงสัยในอาการผิดปกติของตัวเอง ผ่าน Platform โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก และอย่าง Health at Home เป็นเว็บไซต์ที่จัดหาผู้ดูแล ทำหน้าที่ดูแลขั้นพื้นฐานช่วยเหลือกิจวัตรในชีวิตประจำวันของคนไข้ รวมถึงการพาไปหาหมอ หรือซอฟต์แวร์ทางการแพทย์อย่าง SATI ที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) Big data และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างกระบวนการ การบริการทางการแพทย์
โอกาสและแนวโน้มของ InsurTech ในประเทศไทย
จากงาน Insurtech Summit 2024 ทำให้ทราบในหลายแง่มุมว่าประเทศไทยมีโอกาสเติบโตในตลาด InsurTech จากอัตราการเข้าถึงประกันภัยที่ยังไม่สูงเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด นักลงทุนเห็นศักยภาพในผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการของผู้บริโภค ทำให้เกิดการลงทุนในธุรกิจ InsurTech มากขึ้น
นวัตกรรมสำคัญใน InsurTech

1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI): AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงและการให้ข้อเสนอที่เหมาะสมกับผู้ใช้ในแบบเฉพาะบุคคล ช่วยประเมินเบี้ยประกันจากข้อมูลการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงและประเมินราคาที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
2. บล็อกเชน: บล็อกเชนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยและโปร่งใสของข้อมูล ช่วยให้การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเคลมประกันที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องยิ่งขึ้น
3. Internet of Things (IoT): IoT ช่วยให้สามารถติดตามพฤติกรรมและความเสี่ยงของผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์ เช่น การติดตั้งเซนเซอร์ในรถยนต์เพื่อเก็บข้อมูลการขับขี่ช่วยติดตามพฤติกรรมผู้เอาประกันภัยซึ่งสามารถนำมาใช้ในการประเมินเบี้ยประกันที่เหมาะสม
   ความสำคัญของ PDPA และ Cybersecurity
   ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลถูกใช้เป็นพื้นฐานสำคัญของ InsurTech การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเก็บ รักษา และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างถูกต้องและปลอดภัย การละเมิด PDPA ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท แต่ยังอาจนำไปสู่ค่าปรับมหาศาล ดังนั้น บริษัท InsurTech จึงต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (Multi-factor Authentication) และการทดสอบความปลอดภัยของระบบอย่างสมำเสมอ
   นอกจากนี้ การโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เช่น การแฮ็กหรือการโจมตีด้วยมัลแวร์ อาจทำให้ข้อมูลที่สำคัญสูญหายหรือถูกเปิดเผย บริษัท InsurTech จึงจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์เพื่อป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้น
   ความท้าทายและอนาคตของ InsurTech
   แม้ InsurTech จะสร้างโอกาสมากมาย แต่ยังมีความท้าทาย เช่น กฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม และการแข่งขันกับบริษัทประกันภัยดั้งเดิมที่ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลยังต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคด้วย ประเทศไทยมีบริษัทใหญ่ๆ จำนวนมาก และบริษัทเล็กๆ จำนวนมากเช่นกัน จะทำอย่างไรให้ทุกบริษัทก้าวไปพร้อมๆ กันได้
   แนวทางสำหรับอนาคต
   เพื่อให้ InsurTech เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทต่าง ๆ ควรลงทุนในเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้กับผู้บริโภค และร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อกำหนดกรอบกฎหมายที่เหมาะสมกับธุรกิจใหม่ ๆ ในตลาด InsurTech กำลังเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันภัยอย่างรวดเร็ว สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภคในอนาคต