บทวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา
สินค้าส่งออกของไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ สูงเกินคาดที่ 37% อาจส่งผลให้การส่งออกไทยปีนี้ไม่เติบโต ประเทศไทยนับเป็น 1 ในเกือบ 60 ประเทศที่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้(Reciprocal Tariff) โดยสินค้าของไทยจะถูกเก็บในอัตราที่ 37% สูงสุดเป็นอันดับ 5 ในอาเซียน รองจากกัมพูชา (49%) ลาว (48%) เวียดนาม (46%) และเมียนมาร์ (44%) โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

สำหรับสินค้าไทยอาหารทะเลแปรรูป ยางรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และถุงมือยาง สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ทำให้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการส่งออกและการผลิตสินค้าเหล่านี้ โดยเฉพาะอาหารทะเลแปรรูป และยางรถยนต์อาจส่งผลต่อเนื่องผ่านห่วงโซ่อุปทานการผลิต ซึ่งจะกระทบไปยังการผลิตสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่งผลลบต่อการจ้างงาน รวมถึงกำลังซื้อโดยรวมของประเทศ

รูปที่ 2 สินค้าสำคัญและตลาดส่งออกของไทย
สินค้าส่งออกสหรัฐฯ สูงสุด 5 อันดับแรกอาจย้ายฐานการผลิต ประกอบไปด้วย 1. คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 2. โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 3. อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ 4. หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 5. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้า 15 รายการที่ส่งออกไปสหรัฐฯ สูงสุดส่วนใหญ่เป็นของบรรษัทข้ามชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออก ยกเว้น ข้าว อาหารสัตว์ และเครื่องนุ่งห่ม แม้สินค้าหลายตัวผลิตโดยบรรษัทข้ามชาติแต่โรงงานอยู่ในประเทศไทย เสียภาษีเงินได้ให้ไทย ย่อมกระทบต่อจีดีพีไทย กระทบต่อเศรษฐกิจไทย กระทบต่อการจ้างงานในประเทศ เมื่อการส่งออกเหล่านี้ลดลงอย่างมากจากกำแพงภาษี ย่อมส่งผลต่อกระแสรายได้ การขยายของการผลิตในประเทศ ปัญหาการย้ายฐานผลิตของบรรษัทข้ามชาติในไทยจะเร่งตัวขึ้นหากประเทศอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือมาเลเซีย สามารถรีบไปเจรจาต่อรองได้ก่อน และเจอกับภาษีนำเข้าต่ำกว่า
ทั้งนี้หลังจากทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน มีคำสั่งซื้อสินค้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การเลื่อนครั้งนี้ต้องดูว่ายกเว้นสินค้าที่ลงเรือไปก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ไม่ได้นำเข้ามากกว่าปกติมากนัก เนื่องจากมีความจำกัดของพื้นที่จัดเก็บ และต้นทุนที่ต้องเก็บสินค้าเพิ่ม อย่างไรก็ตามสินค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ส่งออกนำเข้าระหว่างกัน เมื่อดูสินค้าเป็นรายตัว เมื่อจีนถูกขึ้นภาษีในอัตราที่สูง ก็เป็นโอกาสของไทยที่จะส่งสินค้าไปตลาดสหรัฐมากขึ้นจากภาษีที่ถูกกว่า ถือเป็นผลดีของไทย แต่สินค้าบางตัวก็จะเป็นโอกาสของประเทศอื่นเช่นกันที่ภาษีถูกกว่าไทย ขณะที่อีกด้าน เมื่อสินค้าจีนส่งออกไปสหรัฐไม่ได้ ก็ต้องหาตลาดอื่นแทน สหรัฐก็เช่นกัน เมื่อสินค้าส่งเข้าจีนไม่ได้ ก็ต้องหาตลาดทดแทน

รูปที่ 3 คาดการณ์ผลกระทบมูลค่าส่งออกไทย
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงินและประกันภัยด้วย หากปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยขนส่งสินค้า (Marine Cargo Insurance) ลดลงตามไปด้วย โรงงานผลิตสินค้าส่งออกอาจได้รับผลกระทบทางการเงิน ทำให้ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันภัยลดลง ความต้องการประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance) และประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Liability Insurance) สำหรับโรงงานและคลังสินค้าลดลง หรือเมื่อย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น โรงงานปิดตัวลง การเลิกจ้างงานอาจส่งผลให้ความต้องการประกันภัยกลุ่ม (Group Insurance) สำหรับพนักงานลดลง การว่างงานที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ความต้องการประกันภัยส่วนบุคคล (Personal Insurance) ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีรายได้ลดลง บริษัทประกันวินาศภัยสูญเสียลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ถูกเก็บภาษีน้อยกว่า จากสถิติอัตราการว่างงานปี 2567 จะเห็นว่าแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตยานยนต์ และการผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี การจ้างงานยังคงหดตัวต่อเนื่อง

รูปที่ 4 จำนวนแรงงานภาคการผลิตและจำนวนโรงงานที่ปิดตัว

รูปที่ 5 ภาพรวมอัตราการว่างงานปี 2567
แนวทางปรับตัวสำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ต้องกระจายความเสี่ยงโดยการขยายฐานลูกค้าไปยังธุรกิจภายในประเทศและตลาดต่างประเทศอื่นๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ภาครัฐควรเร่งสร้างความชัดเจนทั้งข้อเสนอการเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไขทางการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ตลอดจนการประเมินผลกระทบและแนวทางเยียวยาภายใต้กรณีต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนและความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน


รูปที่ 6–7 เบี้ยประกันภัยขนส่งทางทะเลที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา

รูปที่ 8 เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ (ไม่รวมประกันภัยการเดินทาง) ที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา
อ้างอิง
- สำนักงานรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- บลูมเบิร์ก
- Thai PBS
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ
- Thai Insurance Research and Development